ประโยชน์ของการทำสปา

ประโยชน์ของการทำสปา

การดูแลสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหลังจากการทำงานในแต่ละวันแล้วร่างกายและสมองก็ควรได้รับการปรนนิบัติดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แต่อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้อย่างดีนั้นก็คือการทำสปา

ประโยชน์ของการทำสปา สปาตัว ระเบิดขี้ไคล มีดังนี้

ขั้นตอนการทำสปาตัว มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ดังนี้

1. การทำความสะอาดผิว (Cleanse)

2. การอบสมุนไพร (Sauna Steam)

3. การขัดผิว (Body scrub)

4. การแช่ (Neutral bath)

5. การพอกตัว (Body mask)

6. การนวด (Massage)

7. การบำรุงผิว (Moisturizing)

1. การทำความสะอาด ( Cleanse )

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนจำเป็นสำหรับผิวซึ่งจะช่วยชะล้างน้ำมันส่วนเกิน ความสกปรกและมลพิษออกจากผิว ถ้าหากสิ่งสกปรกพวกนี้ไม่ถูกขจัดออก ผิวของคุณอาจจะหมองคล้ำหรือซีดเซียว ทั้งมีรูขุมขนที่อุดตันและอักเสบ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการผิดเพี้ยนของสี และแผลเป็น หรือ สารอนุมูลอิสระที่สามารถทำร้ายเซลล์ผิวรบกวนการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้ระคายเคืองผิวและเป็นต้นกำเนิดของการผิดเพี้ยนของสีผิว เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงผลลัพธ์แย่ๆ เหล่านี้ควรทำความสะอาดผิวสองครั้งต่อวัน

2. การอบสมุนไพร ( Sauna , Steam )

การอบตัวด้วยไอน้ำที่ได้จากการต้มสมุนไพรเป็นวิธีการบำบัดอย่างหนึ่งที่ใช้กันมานานมากแล้ว คือการใช้ความร้อนบำบัด “การอบสมุนไพรเป็นกรรมวิธีในการรักษาสุขภาพอนามัยแบบพื้นบ้าน” เดิมทีการอบสมุนไพรจะใช้ในหมู่สตรีที่คลอดลูกใหม่ๆ ซึ่งจะต้องอาบน้ำร้อน ดื่มน้ำร้อนที่เป็นน้ำต้มสมุนไพร และนอนย่างไฟ บนแคร่ไม้ไผ่ที่ปูรองขึ้นด้วยสมุนไพร เช่น ใบหนาด ใบเป้า นอกนั้นก็ใช้ในคนใช้ที่ประสบอุบัติเหตุหกล้ม รถชน ตกต้นไม้ ช้ำในจะใช้วิธีการอบสมุนไพรโดยการย่าง เพื่อให้การสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายได้สม่ำเสมอและการอบสมุนไพร ถือว่าเป็นการช่วยล้างพิษออกทางเหงื่อ

ผิวหนังของคนเราจะเป็นส่วนที่กว้างที่สุดดังนั้นการขับสารพิษส่วนเกินออกทางเหงื่อจึงได้ผลดีมาก เวลาที่ร่างกายทุกส่วนเกิดความร้อนขึ้นพร้อมกันมันจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัว เลือดที่ผิวหนังเป็นจำนวนมากพาเอาสารเคมีส่วนเกินเช่น โซเดียม โปตัสเซียม หรือสารอื่นๆ ที่รับเข้าไปเกินความต้องการนั้นถูกหลั่งออกมากับเหงื่อ และในเวลาเดียวกันนั้น นอกจากจะล้างพิษออกไปแล้ว เลือดที่มาเลี้ยงที่ผิวหนังมากขึ้น ยังชวยนำพาสารอาหารที่ดีๆ มาให้ผิวหนัง ผิวหนังจึงสวยขึ้นได้

การอบสมุนไพรมี 2 แบบ คือ

– การอบแห้ง ( Sauna )

– การอบเปียก ( Steam )

1. การอบแห้ง ( Sauna ) ซึ่งคล้ายคลึงกับการอยู่ไฟของหญิงหลังคลอดของไทย การอบแห้งเป็นการอบโดยอาศัยความร้อนที่ได้จากถ่านหินบนเตาร้อน ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในต่างประเทศการอบแห้ง เป็นวิธีการอบตัวที่พัฒนามาจากประเพณีไทยดั้งเดิม ซึ่งมีพิธีกรรมต่างๆ ที่รักษาขวัญกำลังใจสำหรับมารดาหลังคลอด มีการอาบน้ำ ต้มสมุนไพรและทาตัวด้วยขมิ้น เพื่อบำรุงรักษาอาการอักเสบที่ผิวหนัง และนิยมอยู่ไฟหลังคลอดด้วยการนอนบนแคร่ไม้ มีกองฟืนให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และการใช้ความร้อนจากกองฟืนนั้นจะช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัว ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น มีการนำเตาถ่านมาใช้ประกอบการรักษาผิวพรรณและลดน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกินปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นห้องอบแห้ง

2. การอบเปียก (Steam) เป็นวิธีการอบตัวด้วยไอน้ำที่ได้จากการต้มสมุนไพรเป็นการบำบัดรักษาวิธีหนึ่งซึ่งเริ่มต้นจากประสบการณ์การนั่งกระโจมของหญิงหลังคลอด โดยใช้ผ้าทำเป็นกระโจมหรือนั่งในลุ่มไก่ที่ปิดคลุมไว้มิดซิดมีหม้อต้มสุมนไพรเดือดเป็นไอให้อบและสูดดมไอน้ำได้ และปัจจุบันได้นำเอาวิธีการเข้ากระโจมมาฟื้นฟูและพัฒนาให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่สมัยใหม่โดยทำเป็นห้องอบไอน้ำสมุนไพรที่ทันสมัยขึ้น ใช้หม้อต้มสมุนไพรที่มีห่อส่งไอน้ำเข้าไปภายในห้องอบหรือทำเป็นตู้แล้วเข้าไปนั่งอบตัว

ส่วนประกอบของสมุนไพรที่ใช้อาจแตกต่างกันได้ตามวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการต่างๆ เช่น ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยขยายหลอดลมและปอด ขับก๊าซเสียได้มากขึ้น ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยขับเหงื่อ คลายความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่แร็งเกร็ง และลดอาการปวดตามข้อและกระดูกการจบตัวด้วยความร้อนนับเป็นวิธีการที่ทางการแพทย์ในปัจจุบัน

ยอมรับว่าสามารถช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองบริเวณผิวหนังดีขึ้นส่วนไอน้ำของสมุนไพรจะมีสรรพคุณตามคุณสมบัติของสมุนไพรนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ช่วยให้ร่างกายเกิดความสดชื่น

ประโยชน์ของการทำสปาตัว

1. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

2. ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ตื่นตัว

3. ช่วยปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจ

4. ช่วยให้นอนหลับสบาย

5. ช่วยขับทองเสียออกจากร่างกาย

6. ช่วยชจัดเรถล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก

7. ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปสั่งและกระชับนุ่มนวล

8. ช่วยลดความเมื่อยล้าจากภาระกิจประจำวัน

9. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย

10. กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และระบบน้ำเหลือง

11. กระตุ้นเซลล์ประสาทในร่างกาย

12. ลดความวิตกกังวล

13. บรรเทาอาการปวดหัว

14. เสริมสร้างความรู้สึกแนบชิดกับจิตวิญญานแห่งธรรมชาติ

คำแนะนำหลังการทำสปาตัว

1. ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำเช้า-เย็น

2. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที

3. หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง มลภาวะ แสงแดด และความเรียด

4. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ

5. รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

8. ทำจิตใจให้เบิกบาน

ประโยชน์ของการอบสมุนไพร

1. ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส

2. คลายความเมื่อยล้า และบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

3. ช่วยให้ขับเหงื่อ

4. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

5. ช่วยบรรเทาอาการเวียนศรีษะ

6. ระบบทางเดินหายใจสดชื่น ลดการระคายเคืองในลำคอ

7. ช่วยละลายเสมหะ

โรคหรืออาการที่สามารถบำบัดรักษาด้วยการอบสมุนไพร

1. โรคภูมิแพ้ที่ไม่รุนแรง

2. หวัด น้ำมูกไหล แต่ไม่มีการแห้งตันของน้ำมูก

3. อัมพฤกษ์ อัมพาต ในระยะเริ่มแรก

4. ปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วๆไป หรือโรคที่ไม่ได้เป็นการเจ็บป่วย เฉพาะที่ มีการเจ็บป่วยหลายตำแหน่ง

5. เป็นโรคหอบหืด ในระยะที่ไม่มีอาการรุนแรง

6. การอบตัวของมารดาหลังคลอดบุตร เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพ

7. โรคหรืออาการบางอย่าง เช่น การยอก โรคเรื้อรังบางชนิด โรคเบาหวาน โรคเก๊าท์

8. การอบสมุนไพรร่วมกับการรักษาอื่นๆ เช่น ประคบสมุนไพร นวดบำบัดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ข้อห้ามและข้อควรระวังของการอบสมุนไพร

1. ขณะที่มีไข้สูง เพราะอาจมีการติดเชื้อโรคต่างๆ

2. มีความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีอาการวิงเวียนศรีษะหน้ามืดห้ามอบสมุนไพร ในบางรายที่มีความดันโลหิตไม่เกินมิลลิเมตรปรอท อาจให้อบได้ตามลุยพินิจของแพทย์ แต่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

3. มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไต โรคหัวใจ โรคลมซัก โรคหอบหืดในระยะรุนแรง โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง

4. สตรีขณะมีประจำเดือน โดยเฉพาะถ้ามีไข้และอาการปวดศรีษะด้วย

5. มีการอักเสบจากบาดแผลต่างๆ

6. ผู้ที่มีอาการ อ่อนเพลีย อดนอน อดอาหาร หรือผู้ที่รับประทานอาหารอิ่มยังไม่ครบ 1 ชั่วโมง

7. ปวดศีรษะ ชนิดวิงเวียนศีรษะ และคลื่นไส้

8. หากมีอาการอึดอัด หายใจไม่สะดวกในขณะอบสมุนไพรควรออกจากห้องอบทันที

ประโยชน์ของการขัดผิว

1. ผิวแห้ง การขัดผิวที่เสื่อมลภาพออก จะช่วยให้ครีมบำรุงผีวซึมชาบเข้าสู่ชั้นผิว ผิวจึงไม่แห้งดึง

2. ผิวผสม ลดปัญหาการเกิดสิว ช่วยให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ

3. ผิวมัน ช่วยให้รูขุมขนสะอาดขึ้น ลดการอุดตัน และลบเลือนรอยดำจากสิว

4. ผิวที่มีริ้วรอย กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติให้ทำงานดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย และความหมองคล้ำ ผิวจึงดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น

5. ผิวที่ไม่เรียบเนียน ช่วยลบเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยที่เกิดจากสิว

6. ผิวแตกลาย ผิวเปลือกส้ม / การขัดผิวด้วยฟองน้ำนุ่มๆ หรือใยบวบธรรมชาติที่แช่น้ำจนนิ่ม ในบริเวณที่ผิวแตกลาย เป็นคลื่น เป็นลอน ทุกวัน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และลบเลื่อนริ้วรอยให้จางลงได้

ประโยชน์ของการนวด

ด้านร่างกาย

1. เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย อารมณ์ปลอดโปร่ง คลายความทุกข์และวิตก

2. เกิดความกระฉับกระเฉงตื่นตัว มีพลังกายและใจที่จะออกไปต่อสู้กับอุปสรรคใน

ชีวิตได้ดีขึ้นมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง

3. เกิดความรู้สึกที่ดีต่อตนเองมากขึ้น เพราะมีความรู้สึกสบายขึ้นและเต็มไปด้วยพลัง ร่างกายและจิตใจได้รับการกระตุ้น

4. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ซึ่งนำอาหารไปเลี้ยงด่วนต่างๆ ของร่างกายและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ก็ดีขึ้น ร่างกายก็สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น

5. หากได้รับการนวดหลังจากการออกกำลังกาย เช่น เล่นกีพาบางอย่าง การนวดจะช่วยขจัดของเสียที่คั่งค้างอยู่ตามกล้ามเนื้อต่างๆ ช่วยป้องกันการเส้นตึง ปวดเมื่อยซึ่งมักเกิดขึ้นภายหลังการออกกำลังอย่างหนักได้

6. การนวดจะช่วยให้กล้ามเนื้อคงรูปได้สัดส่วน ไม่ห่อเหี่ยว โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องนอนอยู่กับเตียงตลอดเวลาเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อซึ่งไม่ได้ใช้งานเหี่ยวลีบลงเรื่อยๆ การนวดจะช่วยทดแทนการออกกำลังได้บางส่วน และช่วยให้กล้ามเนื้อไม่ลีบเร็วเท่าที่ควร

7. การทำงานของอวัยวะภายในทุกอย่างจะได้รับการกระตุ้นจากการนวดให้ทำงานได้ดีขึ้น การย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหาร และการขับถ่ายของเสียจากร่างกายจะทำได้ดีขึ้น

8. ช่วยขจัดรอยเหี่ยวย่นตามใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพราะการนวดช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น และน้ำมันจะช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้สดใส ชุ่มชื่น

9. การนวดจะช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิต้านทานโรคในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น โอกาสที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ลดน้อยลง

ด้านจิตใจ

1. หากผู้ให้และผู้รับเป็นเพื่อน เป็นญาติหรือเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ผู้รับย่อมรู้สึกผูกพัน อบอุ่น รู้สึกว่าได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ห่วงใย ทำให้เป็นสุขและซาบซึ้งใจถ้าเป็นเด็กก็จะเติบโตขึ้นเป็นคนจิตใจมั่นคง ผ่อนคลายและเชื่อมั่นในตนเองสำหรับผู้ให้การนวด

2. มีความปีติและอิ่มเอิบใจที่ได้ช่วยเหลือ ได้ขจัดทุกข์และสร้างความสุขให้ผู้อื่น เพิ่มความเมตตาห่วงใยในเพื่อนมนุษย์

3. ภูมิใจในความมีประโยชน์มีคุณค่าของตนเองต่อผู้อื่น

4. ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีน้ำใจ เป็นที่ยกย่องชื่นชมในหมู่เพื่อน ญาติ และบุคคลทั่วไปที่รู้จัก

5. การนวดเป็นการออกกำลังเบา ๆ อย่างหนึ่ง ช่วยให้ผู้นวดได้เคลื่อนไหว ฝึกถ่ายทอดพลัง (ลมปราณ) จากตนเองไปยังผู้รับ มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง

6. การนวดผู้อื่นบ่อยๆ ช่วยฝึกให้ผู้นวดเป็นคนละเอียดอ่อน รับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้ไว พร้อมที่จะเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้อื่นด้วยความเมตตา และยอมรับเสมอ คุณสมบัติข้อนี้จำเป็นมากในการมีความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้ผู้นวดมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ ไม่ค่อยมีความขัดแย้งบาดหมางใจกับใคร

สามารถติดตามรับชม รีวิวสอนนวดหน้า นวดหน้าเรียว หน้าเด็ก หน้าใส อ่อนวัย ความรู้ด้านสุขภาพและความงาม ได้ที่ https://youtube.com/channel/UC17UE6WZgVyZ5wykxu11Bzg

โรงเรียนพันาสุขภาพและความงาม สอนนวดหน้า สปา นวดไทย ความงามครบวงจร

หรือช่อง YouTube: โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม โดย อ.แอ๊ด

เปิดสอนนวดหน้า สปา นวดไทย ความงามครบวงจร หลักสูตรที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจความสวยความงามตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการสอนอันดับ 1 มากกว่า 19 ปี ได้รับการรับรอง 4 กระทรวง เปิดร้าน สมัครงานในไทย สมัครงานต่างประเทศ อาชีพเสริม ขึ้นทะเบียน สบส. ได้ 100%

สอบถามเพิ่มเติม โทร : 083-982-6422, 080-932-9249 หรือ Line : @Masteradd