หลักสูตรคุณภาพ
ปัจจัะยกระตุ้นปวดศรีษะไมเกรน

ปัจจัยกระตุ้น โรค “ปวดศรีษะไมเกรน”

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีอาการปวดศีรษะ แต่ไม่แน่ใจว่าอาการปวดศีรษะของคุณจะใช่ไมเกรนหรือไม่ ลองสังเกตดูว่าลักษณะการปวดของคุณ ตรงกับข้อใดบ้าง ดังต่อไปนี้

1. ปวดศีรษะข้างเดียว

2. ปวดตุ้บๆ เป็นจังหวะ

3. ปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย

4. ปวดมากจนไม่เป็นอันทำอะไร

5. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยเป็นบางครั้ง

6. ทนแสงแดดจ้าหรือเสียงดังไม่ค่อยได้

เพราะเหตุใดจึงเป็นไมเกรน

1. ลักษณะการปวดศีรษะแบบไมเกรน

อาการปวดศีรษะแบบไมเกรนนั้น มีลักษณะค่อนข้างชัดเจน กล่าวคือ มักจะปวดบริเวณขมับโดยอาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ บางกรณีอาจมีการปวดวนกันไป และมักจะปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำ ๆ ส่วนอีกบริเวณหนึ่งที่พบมาก ได้แก่ บริเวณเบ้าตา ลักษณะของการปวด ก็มักจะปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

2.ระยะเวลา

ระยะเวลาของการปวดอาจแตกต่างกันออกไปในผู้ป่วยแต่ละราย บางรายอาจมีอาการยาวนานถึง72 ชั่วโมง การปวดศีรษะแบบไมเกรนนั้นเป็นโรคทางสมองชนิดหนึ่งซึ่งยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่น่าเชื่อได้ว่าอาจมีจุดกำเนิดจากก้านสมองที่ทำงานผิดปกติ หรือเกิดจากภาวะที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ส่งผลให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษกล่าวคือ มีการหด และขยายตัวของหลอดเลือดอย่างผิดปกติ

3.ข้อสังเกต

ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งสำหรับอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน ได้แก่ ผู้ป่วยมักจะเริ่มเป็นเมื่ออายุยังไม่มากนัก เช่น ช่วงอายุระหว่าง 25 ถึง 45 ปี และเคยมีรายงานว่าพบผู้ป่วยไมเกรนที่มีอายุเพียง 5 ปี ที่สำคัญมีผู้ป่วยผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า เนื่องจากอาจมีปัจจัยเรื่องของฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้อง

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนมีหลายประการซึ่งอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนมีหลายประการ ที่พบได้บ่อย คือ แสงแดด แสงจ้า ซึ่งผู้ป่วยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ต่อมาได้แก่ การอดนอน นอนน้อย หรือนอนดึก นอกจากนี้ อาหารก็เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้เช่นเดียวกันคือ แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง ช็อคโกแล็ต ชีส และสุดท้ายได้แก่ ยาคุมกำเนิด ซึ่งเป็นยาฮอร์โมน และสามารถไปกระตุ้นไมเกรนได้ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. สิ่งแวดล้อม

– เดินทางไปในประเทศที่เวลาแตกต่างจากเดิม

– สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

– แสงสว่างจ้า

– กลิ่นฉุน มลภาวะทางอากาศ

2. แบบแผนการดำเนินชีวิต

– อดนอน นอนไม่เป็นเวลา นอนไม่หลับ นอนมากเกินไป

– อดอาหาร หรือทานอาหารไม่ตรงเวลา

– อารมณ์แปรปรวน เช่น เครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล

– พักผ่อนไม่เพียงพอ

3. อาหารและเครื่องดื่ม

– รับประทานอาหารที่มีไทรามีนสูง เช่น ชีส โยเกิร์ต ของหมักดอง

– อาหารที่มีส่วนประกอบของยีสต์

– ดื่มกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น

– รับประทานอาหารที่มีผงชูรส

– อาหารจำพวก ถั่ว เนยถั่ว

– เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

– เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการหมัก ดอง หรือแปรสภาพเพื่อยืดอายุ อาหารที่มีสารกันบูด

– อาหารที่มีสารให้ความหวาน

นอกเหนือจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว หลายคนเชื่อว่าความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นการปวดไมเกรนตรงนี้ คือ จริง ๆ แล้วความเครียดไม่ได้ทำให้เราเป็นไมเกรน แต่ด้วยพันธุกรรมทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อไมเกรนอยู่แล้วเป็นไมเกรนขึ้นมา 

เมื่อไรก็ตามที่เราเครียดเราจะปวดหัวได้ 2 แบบ 

แบบที่ 1 คือมึน ๆ เหมือนมีอะไรมารัดศีรษะอยู่แน่นไปหมด อันนี้เป็นลักษณะการปวดหัวแบบเครียด 

แบบที่ 2 คือ คนเป็นไมเกรนจะปวดหัวแบบไมเกรน หรือแบบผสม เช่น ปวดตุ้บ ๆ คลื่นไส้ อาเจียน”

การรับมือกับ “ปวดไมเกรน”

แม้ว่าอาการปวดศีรษะแบบไมเกรนจะรักษาไม่หาย แต่ผู้ป่วยก็สามารถดูแลตัวเองเพื่อบรรเทา และลดความถี่ในการถูกกระตุ้นจนเกิดอาการปวดได้โดยปฏิบัติดังนี้

หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นไมเกรน ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่บางคนอาจมีปัจจัยกระตุ้นอื่นอีกได้ ทางที่ดี ควรหมั่นสังเกตตัวเองให้ดี และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นนั้น ๆ นอนหลับให้เพียงพอ แต่อย่าให้มากเกินไป 

ผู้ใหญ่โดยทั่วไปควรนอนให้ได้ประมาณ 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน

หยุดพักเมื่อมีอาการ ถ้าเป็นไปได้ควรพยายามพักผ่อนในห้องเงียบ ๆ มืด ๆ ร่วมกับการประคบเย็นบริเวณต้นคอ พร้อมกับนวดบริเวณที่ปวดก็จะช่วยบรรเทาอาการได้

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายโดยรวมแข็งแรง และลดความเครียดซึ่งอาจจะช่วยลดความถี่ของการปวดได้

จดบันทึกอาการของคุณ บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับความปวด อาทิ วัน เวลา ระยะเวลา ลักษณะอาการปวด อาหารที่รับประทาน รวมถึงความผิดปกติต่าง ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับอาการของคุณเลย

ผู้ป่วยไมเกรนมากกว่าครึ่งสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งใดเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ (Trigger Factors) เพราะฉะนั้นปัจจัยกระตุ้นอาการปวดศีรษะไมเกรนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย

สามารถติดตามรับชม รีวิวสอนนวดหน้า นวดหน้าเรียว หน้าเด็ก หน้าใส อ่อนวัย ความรู้ด้านสุขภาพและความงาม  ได้ที่ https://youtube.com/channel/UC17UE6WZgVyZ5wykxu11Bzg

โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม

 หรือช่อง YouTube:  โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม โดย อ.แอ๊ด  

อาจารย์แอ๊ด ผู้บริหารโรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม สมาพันธ์ความงามเกาหลี K Beauty

เปิดสอนนวดหน้า สปา นวดไทย ความงามครบวงจร  หลักสูตรที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจความสวยความงามตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการสอนอันดับ 1 มากกว่า 19 ปี ได้รับการรับรอง 4 กระทรวง เปิดร้าน สมัครงานในไทย สมัครงานต่างประเทศ อาชีพเสริม ขึ้นทะเบียน สบส. ได้ 100%

สอบถามเพิ่มเติม โทร : 083-982-6422, 080-932-9249   หรือ Line : @Masteradd  

Website : https://masteradd.academy/

สอบถามเพิ่มเติมคลิก

บทความที่อาจสนใจ 

นวดหน้าย้อนวัย นวดอย่างไร ให้ดูย้อนวัย หน้าเด็ก?

นวดหน้ายกกระชับ ทำเองได้ จริงหรือ?

เทคนิคการนวดหน้าเรียวแบบง่ายๆ 10 นาที ก่อนนอน แบบฉบับอาจารย์แอ๊ด

สปา คืออะไร ประวัติความเป็นมาอย่างไร !!

วิธีแก้โบท็อกซ์ ด้วยการนวดหน้า

ข้อดีของการ “นวดหน้ากัวซา”

โครงสร้างผิวหน้า มีอะไรบ้าง!?

9 ปัจจัย!! ที่ทำให้ผิวหน้าแตกต่างกัน

นวดหน้าทองคำ ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้ จริงหรือ?

หลักสูตรนวดหน้าสร้างอาชีพ เพิ่มทรัพย์

อาจารย์แอ๊ดสอนนวดหน้า ยกกระชับ ปรับรูปหน้า เรียนนวดหน้า กดจุด

สอบถามเพิ่มเติมคลิก

อยากเรียนนวดหน้าที่ไหนดี สอนนวดหน้าออนไลน์ นวดหน้าเรียว SPA บริการเพื่อความงามรับรองโดยกรม สบส เรียนเคาะหน้าเรียว คอร์สนวดหน้าสร้างอาชีพ เรียนนวดหน้าเกาหลี เรียนนวดหน้า สไตล์ญี่ปุ่น เรียนนวดหน้าฟรี เรียนนวดหน้าตัวเอง เรียนนวดหน้าผ่อนคลาย เรียนนวดหน้าด้วยเครื่อง

#นโยบายการเรียนการสอน

1)ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้

2)กลัวลืม สามารถมาเรียนทวนซ้ำได้ฟรี

3)ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม

4)มาเรียนฟรีทวนซ้ำจนกว่าจะเป็นมืออาชีพ

.เรียนนวดหน้า

#เรียนนวดหน้า #นวดไทยสปาขึ้น

ทะเบียนสบส.ได้ 100%

สามารถทำงานทั้งไทยและต่างประเทศ

กลัวเรียนแล้วลืม มาทวนซ้ำไม่จำกัดชม. ฟรี คุ้มสุดใน 3โลก

.

อาจารย์แอ๊ด

ผู้บริหาร Studio Academy

โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงามอันดับ1

ผู้บริหาร K beauty สมาพันธ์ความงาม

อันดับ1 ของประเทศเกาหลี ประจำประเทศไทย

.

ปรับโหงวเฮ้ง นวดหน้าผลักสิวอุดตัน

พร้อมใบประกาศ ไปทำงานต่างประเทศ

ลูกค้าประทับใจระดับVIP

.

#โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม

#เรียนนวดหน้า #โหงวเฮ้ง #ยกกระชับ

#นวัตกรรมใหม่ #หน้าเรียว #ถุงใต้ตา

#รักษาสิว #ธรรมชาติ

#สิวอุดตัน #รักษาสิวเสี้ยน

#นวดผลักสิว #รีดสิว

#รูขุมขนกว้าง #สุขภาพ

#MassageBangkok

#organic #origin

#นวดหน้าเรียว

#ออนไลน์

#อาชีพอิสระ

#อาชีพเสริม

#อาชีพเสริมทําที่บ้าน

#อาชีพเสริมหลังเลิกงาน

#อาชีพพารวย

#รายได้ดี

#นวดหน้าเรียว #ยกกระชับ

#หน้าเรียวไม่ง้อโบท็อก

#นวดหน้าออแกนิค

#นวดหน้าสปาขั้นสูง

#นวดหน้าปรับโหงวเฮ้ง

#เรียนนวดหน้าเรียว

#สอนนวดหน้าเรียว สู่สปาโลก

#รีดสิว #นวดผลักสิวอุดตัน

#โรงเรียนพัฒนาสุขภาพและความงาม

อาจารย์แอ๊ดผู้อำนวยการและ

ผู้บริหารฝ่ายต่างประเทศ

#อาจารย์แอ๊ดสอนครู เทรนเนอร์ นวดหน้า สปาสู่สากล

#มาตรฐานการสอนอันดับ1

#ที่ปรึกษาผู้ประกอบการด้าน สกินแคร์สู่ตลาดอาเซียนและยุโรป

Line: @masteradd

สนใจเรียน “นวดหน้าสร้างอาชีพ เพิ่มทรัพย์”

สอบถาม และ ปรึกษา ฟรี !! ได้ที่

โทร :  083-9826422

ช่องทาง ติดตาม อาจารย์แอ๊ด เพื่อรับความรู้เพิ่ม ได้ที่

เรียนนวดหน้า : https://www.facebook.com/charmingacdemy